Review เครื่องมือ Marketing automation & CRM tools ที่น่าสนใจ
ตัวอย่างการ Design customer journey map จาก smashingmagazine
Review เครื่องมือ Marketing automation & CRM tools ที่น่าสนใจ
ก่อนหน้านี้ผมเคยเขียนบทความเกริ่นนำให้เห็นภาพรวมของMarketing Tools ต่างๆในยุคนี้แล้ว เรื่อง Marketing automation tool หรือ Marketing cloud คืออะไร ไปแล้ว ซึ่งนิยามคร่าวของ Marketing automation tool คือ
เครื่องมือที่สามารถ สร้าง Automate Campaign ได้ตาม journey ของลูกค้า, Communicate กับลูกค้าผ่าน channels ต่างๆได้. Data management การทำงานกับ Database ขั้นพื้นฐานและขั้นสูง, Content builder สามารถบริหารจัดการเนื้อหาต่างๆ, Lead / Sale automation การส่งรายชื่อลูกค้า Potential เข้าระบบ CRM, หรือส่งให้ตัวแทนการจายดูแลต่อ และ Analytic & Insight อาจมีส่วนของ Standard Report/Dashboard หรือปรับแต่งรายงานขั้นสูงได้
สำหรับวันนี้ ผมขอรวบรวม 5เครื่องมือด้าน Marketing automation และ CRM tools ที่ผมเคยได้ลองใช้ หรือไม่ก็มีโอกาสได้คุยกับ Sale โดยตรงประกอบไปด้วย
1. Hubspot
2. IBM Watson Campaign Automation
3. Sitecore
4. Emersys
5. Salesforce
1. Hubspot เป็นระบบที่เน้นการใช้งานง่าย เหมาะสำหรับองค์กรขนาดเล็ก มีเครื่องมือจัดการกับรายชื่อ, จัดการกับ Partner ทางธุรกิจ, มีระบบ Sale tracking แบบเรียบง่ายสามารถจัดการ pipeline ได้ดี, สามารถจัดการ Task งาน หรือทำระบบนัดหมาย (meeting)ได้ผ่านระบบ
ตัวอย่างการจัดการ Contact
ตัวอย่างการจัดการ Deal
จุดเด่นอีกประการของ hubspot คือ มี Package free ให้ลองใช้ และสามารถเชื่อมต่อกับระบบ Email automation ชื่อดังอย่าง mailchimp ได้ง่ายๆผ่าน API สำเร็จรูป
ตัวอย่างการเชื่อมต่อกับ mailchimp
2. IBM Watson Campaign Automation เป็นเครื่องมือ automation จากค่ายใหญ่อย่าง IBM โดยเริ่มต้นมาจากการที่ IBM ซื้อระบบ silverpop มาจาก Atlanta ในปี 2014 โดยใช้ชื่อ IBM silverpop ก่อนเปลี่ยนเป็น IBM marketing cloud และRebranding ล่าสุดในชื่อ IBM Watson Campaign Automation
ตัวอย่างการจัดการ Campaign automation ใน . IBM Watson Campaign Automation
จุดเด่นของ IBM Watson Campaign Automation นั้นคือการจัดการ Database ที่ง่ายมากสำหรับคนที่มีพื้นฐานของการใช้คำสั่ง Data query และมีระบบ Lead scoring ได้ละเอียดตามพฤติกรรมของ User อีกทั้งใน Version หลังๆมี Application เสริมมากมากต่างๆ เช่น
-IBM Journey Designerสำหรับให้นักการตลาดออกแบบ Campaign เองได้ไม่ยาก
-Email insight สำหรับ track สถานะของ email ที่เราส่งออกไปว่าตกใน Inbos หรือ Spam trap
ตัวอย่างการจัดการออกแบบ Journey Designer ใน IBM Watson Campaign Automation
3. Sitecore เป็นเครื่องมือที่โดดเด่นด้านการจัดการ Content (CMS) และมีระบบ Analytic หลังบ้านที่ฉลาดมากๆในการ Track พฤติกรรม User อีกทั้งยังสามารถดู User jouney footpath ได้ละเอียด เหมาะสำหรับการสร้าง Micro-segmentation เพื่อพัฒนาสินค้าหรือบริการให้เหมาะสมในอนาคต
หน้าตาของระบบ Sitecore Experience ที่ออกแบบ UX ได้ดี
Sitecore path analyzer เพื่อดู User behavior
Sitecore Experience Profile dashboard
เป็น Feature ที่ตอบสนองการทำงานแบบ CRM ได้ชัดเจน และสามารถดู Activity ของ End-user ได้แบบ Customer lifetime value
4. Emarsys เป็นเครื่องมือที่เคลมจุดเด่นของตัวเองว่าเป็น unified profiling และมี Artificial Intelligence Marketing solution โดยFeatureแล้ว Emersys ก็มีเครื่องมือ marketing automation พื้นฐานมาครบครันเช่น
– การทำ Email marketing
– การPush notification ทาง Mobile application
– การทำPersonalize SMS messaging
– การทำงานร่วมกับ Social เช่น การสร้าง Data collection form ใน Facebook
– การใช้ Artificial Intelligence Marketing (AI marketing) เพื่อสร้าง Recommendation engine ที่สามารถปรับเนื้อหาสินค้าหรือบริการให้เหมาะสมตามความสนใจของ User
หน้า Customer Lifecycle Report เพื่อดู Buyer Status
ระบบ Incentive Recommendation
breakdown ของ metrics ใน incentive แต่ละตัว
5. Saleforce เป็นเครื่องมือที่ครบถ้วนในด้าน CRM + ระบบจัดการ Sale opportunity โดยจุดที่โดดเด่นของ Saleforce คือ
– มีระบบ Report ประสิทธิภาพ Sale
– สามารถเป็น Sale pipeline ได้ครบถ้วน
– มีระบบจัดการ Product เบื้องต้น
– มี Instant integration กับระบบTools อื่นๆพร้อมใช้งาน
– สามารถสร้าง Task งานหรือ Invite calendar หากลุ่มลูกค้าได้เลย
การจัดการ Contact ใน CRM
การเลือกรูปแบบ Launcher
การจัดการ Sale opportunity
การจัดการ operation ของ Sale pipeline
สรุป สิ่งสำคัญก่อนที่ Digital marketer, Marketing Manager, CTO จะเลือกใช้เครื่องมือเหล่านี้ ต้องตีโจทย์ทางธุรกิจให้แตกก่อนนะครับ ว่าสินค้าหรือบริการของเรามี Business model อย่างไรเช่น
-ถ้าเป็น E-commerce ที่มี Product เยอะๆ มี Target ค่อนข้าง Mass หรือหลากหลาย ก็ควรจะเลือกระบบที่มีระบบ Inventory ดีๆ รองรับการทำ A/B testing
– ถ้าเป็นธุรกิจประเภท Brick & Mortar หรือมีธุรกิจที่มีหน้าร้านมีสาขามากมาย ก็ควรเลือกระบบที่มีการ Integrateกับระบบ point of sale ได้ดี, รองรับ API data จากทาง Offline ได้
– ถ้าเป็นธุรกิจ Supply ต่างๆที่เน้นขายส่งแบบ B2fB ก็ควรเลือกระบบที่มีการจัดการUser Role ได้หลากหลาย เพื่อให้ Vendor ต่างๆเข้ามาใช้ระบบร่วมกันได้
จะเห็นได้ว่า Tool ที่แพงที่สุดหรือฟีเจอร์เยอะที่สุด ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เราขายของได้มากขึ้น เราควรเลือก Tool ที่มีจุดแข็งเหมาะกับโมเดลธุรกิจของเรา มีฟีเจอร์สำคัญๆที่ทำงานร่วมกับกลยุทธ์การตลาดของเราได้ดีที่สุด …
อ่านพื้นฐานเรื่อง Marketing automation tool หรือ Marketing cloud คืออะไร ใช้งานอย่างไร
ติดต่อขอรับคำปรึกษาด้าน Marketing และ Technology
- ให้คำปรึกษาตั้งแต่การวาง Technology Roadmap
- การเลือกเครื่องมือที่ตอบโจทย์ธุรกิจที่สุด
- การวาง Data Foundation ให้รองรับสเกลของธุรกิจ
- การ Implement Platform อย่างมีระบบ
- การทำ Change Management และการติดตามการ Adoption
- ควบคุมการบริหารโครงการด้วยผู้มีประสบการณ์ตรง
- รับจำนวนจำกัดไม่เกิน 2 Projects / เดือน
Email : [email protected]
ติดตาม Marketing Tech Thailand ใน Social Media ได้ที่
🔥 Facbook Page : Marketing Tech Thailand
🔥 Facebook Group : Marketing Tech Thailand – Group
📺 Youtube : Marketing Tech Thailand
🌎 Linkedin Group (Global Community) : Marketing Tech Community in Thailand
